โจวต้ากวนหรือ โจวเฉ่าถิง หรือ เฉา-ถิง-ยี่-หมิ่น นักเขียนชาวจีน ผู้ร่วมทางไปกัมพูชากับคณะทูตซึ่งพระเจ้าเฉวิงจงแห่งราชวงศ์หยวนส่งไปเกลี้ยกล่อมให้กัมพูชายอมสวามิภักดิ์ต่อราชสำนักจีน ใน พ.ศ.๑๘๓๘
๑ ที่ตั้ง
นครเจินละหรือเขมร กัมพูชา ปี พ.ศ. 1838 ปีที่คณะราชทูตจีน สมัยราชวงศ์หงวน เดินทางไปถึง พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อพระเจ้าศรินทรวรมันโจวต้ากวาน (เฉาตากวน) หนึ่งในคณะทูตจีน บันทึกเรื่องราวกว่าหนึ่งปีที่อยู่ในเจินละว่า เคยเห็นขบวนพระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกนอกพระราชวังสี่ห้าครั้งต่อไปด้วยนี้ เป็นถ้อยคำสำนวนจีน เขียนโดยโจวต้ากวาน แปลไทยโดยคุณเฉลิม ยงบุญเกิด
๒ ประวัติศาสตร์ความเป็นมา
“บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจินละ(เจิ้น หล่า ฝง ตู้ คี่-) เป็นบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวกัมพูชาของโจวต้ากวนหรือ โจวเฉ่าถิง หรือ เฉา-ถิง-ยี่-หมิ่น นักเขียนชาวจีน ผู้ร่วมทางไปกัมพูชากับคณะทูตซึ่งพระเจ้าเฉวิงจงแห่งราชวงศ์หยวนส่งไปเกลี้ยกล่อมให้กัมพูชายอมสวามิภักดิ์ต่อราชสำนักจีนใน พ.ศ.๑๘๓๘ โจวต้ากวนเดินทางไปถึงเมืองนครธม พ.ศ.๑๘๓๙ แล้วพำนักอยู่ประมาณ๑ปีก่อนกลับและเขียนบันทึกฉบับนี้หลังจากเดินทางถึงจีนแล้ว
ปอล เปลลิโอต์ ระบุว่า โจวต้ากวนเดินทางไปกัมพูชาระหว่างพ.ศ.๑๘๓๓–๑๘๓๔ และเขียนบันทึกขึ้นก่อนปีพ.ศ.๑๘๕๕ บันทึกนี้ถูกตีพิมพ์อีกในพ.ศ.๑๘๘๙ ก่อนสิ้นราชวงศ์มองโกล และถูกตีพิมพ์ไม่น้อยกว่า ๗ ครั้งระหว่างพ.ศ.๒๑๘๙–๒๑๙๐ หลังจากนั้นบันทึกของโจวต้ากวนก็ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ตามลำดับอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน ในที่นี้ผู้วิพากษ์จะนำเนื้อหาในบันทึกของโจวต้ากวนตอนที่ ๑๖–๒๐ แปลโดย เฉลิม ยงบุญเกิด ฉบับตีพิมพ์พ.ศ.๒๕๑๐ มาวิพากษ์เพื่อประเมินคุณค่าและความน่าเชื่อถือโดยเปรียบเทียบกับเนื้อหาจากการแปลของของเปลลิโอต์ , ดาร์ครี พอลและสมิธีส์
๓ ความสำคัญ
๑ บันทึกของโจวต้ากวนได้รับยกย่องว่า “ถูกต้องแม่นยำ”
๒ เอกสารของโจวต้ากวนจึงมีคุณค่ายิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์กัมพูชา
๓ เขาบุว่า “สยาม” กับ “เสียน-หลอ” มีความหมายเดียวกัน
บันทึกของโจวต้ากวนได้รับยกย่องว่า “ถูกต้องแม่นยำ” เมื่อตรวจสอบกับหลักฐานโบราณคดี เรื่องราวของกัมพูชาเคยปรากฏอยู่ในบันทึกของหยวนจางและอี้จิงประมาณพุทธศตวรรษที่๑๒-๑๓ แต่ยังไม่ปรากฏฉบับแปลภาษาไทย เอกสารของโจวต้ากวนจึงมีคุณค่ายิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์กัมพูชา
ระหว่างต้นถึงกลางพุทธศตวรรษที่๑๙ จีนยังเรียก “กัมพูชา” ว่า “เจิ้นหล่า(Tchen-la) หรือ (Tchan-la)” อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่๑๒ และระบุว่าชาวกัมพูชาเรียกอาณาจักรของตนว่า “กานป้อจื้อ (Kan-po-tche)”
เฉลิม ยงบุญเกิดยังคงรักษาคำว่า“เสียน-หลอ”เอาไว้บางตอน “เสียน-หลอ” หมายถึง “กรุงศรีอยุธยา” โดยเปลลิโอต์ระบุว่า เมื่อ “หลอหู(ละโว้)” ยึดครอง “เสียน” ใน พ.ศ.๑๘๙๒แล้ว จีนเรียกรัฐใหม่นี้ว่า “เสียน-หลอ” หรือ “เสียน-หลอหู” เขาถอดคำว่า “เสียนหลอ” ในภาษาจีนเป็น “สยาม-Siam” แต่ในบทวิจารณ์ท้ายฉบับแปล เปลลิโอต์ระบุว่า “สยาม” กับ “เสียน-หลอ” มีความหมายเดียวกัน ขณะที่ฉบับแปลของ เจ. กิลแมน ดาร์ครี พอล และฉบับแปลของสมิธีส์ กลับละเลยคำว่า “เสียน-หลอ” โดยต่างก็ใช้คำว่า” Siam” ตามเปลลิโอต์
没有评论:
发表评论